ผู้สูงอายุ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อสถาบันครอบครัว เนื่องจากเป็นผู้ที่เคยเป็นกำลังให้กับครอบครัว สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของลูกหลาน ดังนั้นทางรัฐบาลไทยจึงสนับสนุนให้มีวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 13 เมษายนของทุกปี และกำหนดนโยบายส่งเสริมความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ
ประวัติและความเป็นมาของวันผู้สูงอายุแห่งชาติ
ในอดีตสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีนโยบายดูแล ส่งเสริมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และดำรงชีวิตในสังคมได้ จึงจัดสถานสงเคราะห์เพื่อให้คนชราได้มีที่พักพิง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลผู้สูงอายุอย่างจริงจัง โดยกรมประชาสงเคราะห์เป็นหน่วยงานที่ดูแล และได้จัดตั้ง “สถานสงเคราะห์คนชราบางแค” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “บ้านบางแค” เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2496ยุคต่อมาเมื่อองค์การสหประชาชาติได้เล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุ จึงจัดประชุมสมัชชาเกี่ยวกับผู้สูงอายุที่ประเทศออสเตรเลีย ในปี พ.ศ.2525 และพิจารณาประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ “ผู้สูงอายุ” ไว้ 3 ประการ ได้แก่ ด้านมนุษยธรรม, ด้านการพัฒนา และด้านการศึกษา โดยกำหนดนิยามผู้สูงอายุว่า คือ บุคคลเพศชาย หรือ เพศหญิง ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปปีเดียวกันองค์การอนามัยโลกได้กำหนดคำขวัญส่งเสริมผู้สูงอายุไว้ว่า “Add Life to Years” และคณะกรรมการอำนวยการวันอนามัยโลก กระทรวงสาธารณสุข มีมติใช้คำขวัญเป็นภาษาไทยว่า “ให้ความรัก พิทักษ์อนามัย ผู้สูงวัยอายุยืน” ในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2525 รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้อนุมัติให้วันที่ 13 เมษายน เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ”
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งวันผู้สูงอายุแห่งชาติ มีดังนี้
1. เพื่อให้การสงเคราะห์คนชราที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือประสบปัญหาความทุกข์ยาก ไม่มีที่อยู่อาศัย หรือไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้
2. เพื่อให้บริการแก่คนชราที่อยู่กับครอบครัวของตน แต่มีความต้องการบริการสงเคราะห์คนชราบางอย่าง เช่น การรักษาพยาบาล กายภาพบำบัด นันทนาการ
3. เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้มีรายได้น้อย หรือยากจน ที่ไม่สามารถจะอุปการะเลี้ยงดูคนชราไว้ในครอบครัวได้
4. เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมอันเกี่ยวกับคนชรา ไม่ให้เร่ร่อน ทำความเดือดร้อนรำคาญแก่สังคม และให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างผาสุกตามสมควรแก่อัตภาพ
5. เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีที่คนชราได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ
6. เพื่อผู้สูงอายุจะได้คลายวิตกกังวลเมื่อชราภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้แล้ว ทางรัฐบาลมีหน้าที่ที่จะเป็นผู้อุปการะคุณเลี้ยงดูต่อไปกรมประชาสงเคราะห์ได้ดำเนินการให้การสงเคราะห์ผู้สูงอายุตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นตลอดมา
ดอกลำดวน เป็นดอกไม้ประจำวันผู้สูงอายุแห่งชาติ
นอกจากนี้รัฐบาลสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยังได้เลือก “ดอกลำดวน” เป็นดอกไม้ประจำวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เนื่องจากต้นลำดวนเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนยาวในสวน
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ลำดวนเป็นต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่น มีใบเขียวตลอดทั้งปี ให้ร่มเงา และดอกมีสีนวล มีกลิ่นหอม กลีบไม่ร่วงโรยง่าย เปรียบเสมือนผู้ทรงคุณวุฒิ
ผู้คงคุณธรรม เหมือนผู้สูงอายุที่มีวัยวุฒิเป็นแบบอย่างแก่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป
เนื่องจากวันผู้สูงอายุของไทยตรงกับวันสงกรานต์ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการเดินทางไปเยี่ยมเยียน หรือส่งข้อความอวยพรให้กับผู้สูงอายุ เพื่อนึกถึงคุณงามความดี และแสดงความกตัญญูกตเวทีแก่ญาติผู้ใหญ่ของเรา ตามประเพณีไทยที่สืบทอดกันมานาน
ข่าว ณ. วันที่ 13 เม.ย. 2565 เวลา 19.24 น. โดย คุณ บุญเลิศ ปั้นโท
ผู้เข้าชม 111 ท่าน |